ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
หลังจากได้ฟื้นฟูการทอผ้าจกแล้ว ผ้าจกเป็นที่แพร่หลาย นับว่าเป็นการพลิกฟื้นผ้าจกไท-ยวนราชบุรีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากเกือบสูญหายไปจากชุมชนคูบัว เมื่อประมาณ ๘๐ ปีที่ล่วงมา ความคิดดั้งเดิมที่จะจัดตั้งศูนย์สะสมวัฒนธรรมไทยโยนก คูบัว ถูกนำมาทบทวนปรับปรุงโครงการให้เหมาะสมขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นในปีพุทธศักราช ๒๕๓๘ ดร.อุดม สมพร พร้อมด้วยคณะ อาทิ พ.อ.อานัติ ขำแก้ว, อาจารย์พิศิษฐ์ ขำแก้ว, คุณสังข์ ขำแก้ว ร่วมคิดร่วมปรึกษา จัดทำโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ผ้าไทพื้นบ้านภาคตะวันตก ขึ้นที่บริเวณวัดแคทราย แต่ไม่มีงบประมาณสนับสนุนการดำเนินโครงการ ถึงกระนั้นก็ตามคณะผู้ดำเนินการก็ยังเคลื่อนไหวหาผู้สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเมื่อพระครูสุทธิบุญญาทร เจ้าอาวาสวัดแคทราย มรณภาพ เจ้าอาวาสต่อมามีความคิดเห็นขัดแย้ง ไม่สนับสนุนการใช้พื้นที่วัดสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่คณะดำเนินการไม่ละทิ้งเจตนารมณ์เดิมจึงแสวงหาพื้นที่แห่งใหม่ดำเนินการต่อไป เพราะมีหลักคิดว่า “ ทำดี ทำที่ไหนก็ได้ ถ้าหากการกระทำนั้นเป็นไปเพื่อสาธารณะ ไม่แสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองและหมู่คณะ การกระทำนั้นก็จะสำเร็จในที่สุด ” ด้วยความมุ่งมั่นในอุดมการณ์ดังกล่าวจึงเป็นผลให้ได้รับการประสานงานจากคณะกรรมการวัดโขลงสุวรรณคีรี อาทิ อาจารย์สุวิน เมาระพงษ์, ว่าที่ร้อยตรีเพิ่มสุข เมาระพงษ์, คุณนวล ห่วงทอง, คุณคำ อ่อนแก้ว, คุณธวัชชัย สระเกษ ให้คณะดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่วัดโขลงสุวรรณคีรี จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ผ้าไทฯ
ภายในอาคาจิปาถะภัณฑ์ แบ่งห้องแสดงไว้หลายห้อง ประกอบด้วย..
ส่วนจัดแสดงแบ่งเป็น 10 ห้องได้แก่
ห้องที่ 1 แสดงภูมิปัญญาสมัยทวารวดี
ห้องที่ 2 แสดงเครื่องมือทำมาหากิน
ห้องที่ 3 มุมหลับนอนสอนลูกหลาน
ห้องที่ 4 แสดงการระดมความคิดของคนในชุมชน
ห้องที่ 5 แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไท-ยวน
ห้องที่ 6 แสดงเรื่องทำมาหากินของไท-ยวน
ห้องที่ 7 ห้องโถงสำหรับจัดนิทรรศการ
ห้องที่ 8 ภูมิปัญญาทอผ้าจก
ห้องที่ 9 ห้องอนุรักษ์ผ้าโบราณ
ห้องที่ 10 ห้องชาติพันธุ์ในจังหวัดราชบุรี
นอกเหนือจากวัฒนธรรมสมัยทวารวดีที่เคยปรากฏหลักฐานที่นี่เมื่อพันกว่าปีมาแล้ว คือเมืองโบราณคูบัว แล้ว ที่นี่ยังแสดงวัฒนธรรมของคนไทยวนที่อพยพมาตั้งรกรากที่นี่เมื่อกว่า 200 ปีที่ผ่านมา โดยแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตตั้งแต่การเกิด การกิน การสอนลูกหลาน การนับถือศาสนา ได้เห็นความสัมพันธ์ของพระสงฆ์ในสมัยก่อนกับฆราวาส จากนั้นจะเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ในด้านการทำเกษตรทำนาทำไร่ เครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ
ส่วนที่จัดแสดงที่อยู่ชั้นบนเป็นเรื่องผ้าจกไท-ยวน โดยมีห้องเกี่ยวกับวิธีทอผ้าจกด้วยหุ่น อีกห้องเป็นห้องใหญ่ที่จัดเก็บรวบรวมผ้าจกใหญ่ ผ้าจกโบราณ และมีผ้าจกใหม่ไว้ให้เปรียบเทียบกัน มีลวดลายไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้แบบลายถักทอ ห้องสุดท้ายคือห้องชาติพันธุ์ เนื่องจากว่าคนราชบุรีไม่ได้มีแต่คนไท-ยวนอย่างเดียว ห้องนี้จึงจัดเป็นห้องชาติพันธุ์ในราชบุรีซึ่งมี 7 ชาติพันธุ์ ได้แก่ ไทยวน ไทยทรงดำ มอญ จีน กะเหรี่ยง ลาวเวียง ไทยพื้นถิ่น และผ้าของชาวติมอร์ตะวันออก
บริหารจัดการ
ประเภทพิพิธภัณฑ์
วัตถุจัดแสดงที่มีความสำคัญ / สิ่งที่น่าสนใจ
ศิลปะปูนปั้นสมัยทวารวดี
แผนที่
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
โทรศัพท์ : 032-323197, 081-763-1989
เว็บไซต์ : http://www.jipathaphan.com/
วันและเวลาทำการ
เปิดทุกวัน 8.00 - 16.30 น.
ค่าเข้าชม
ไม่เก็บค่าเข้าชม
เนื้อหาสำหรับประชาชนทั่วไป
เนื้อหาสำหรับเด็ก
รับบัตรเครดิต
รับจองล่วงหน้า
กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะจะต้องทำหนังสือก่อนขอเข้าเยี่ยมชม
ข้อมูลสำหรับผู้พิการ
ไม่มีข้อมูลสำหรับผู้พิการ
สิ่งอำนวยความสะดวก
มีพื้นที่สำหรับจอดรถ