แกลเลอรี
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์เล่นได้ เกิดจากการทำงานร่วมกันของชุมชนและนักพัฒนาสังคม(กลุ่มคนเฒ่าคนแก่) ที่นำความรู้ภูมิปัญญาของผู้สูงอายุ ออกมาถ่ายทอดสู่การพัฒนาเด็กและเยาวชน ผ่านภูมิปัญญาพื้นบ้าน เป็นเครื่องมือที่เรียกว่า “ของเล่นพื้นบ้าน” จนพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านภูมิปัญญา โดยมีคุณวีระพงษ์ กังวานนวกุล หรือ คุณเบิ้ม เป็นผู้ผลักดัน โดยได้รับความสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลป่าแดดในการสร้างอาคาร และชุมชนได้มอบที่สาธารณประโยชน์ เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของคนทุกเพศทุกวัย ตามวัตถุประสงค์
ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ มีลักษณะเป็นศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยวชุมชน ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชน และบ้านที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าชนิดต่างๆ รวมถึงได้จัดแสดงของเล่นพื้นบ้านออกเป็น 7 ตู้การเรียนรู้ ให้เด็กๆ มานั่งเล่นเรียนรู้ สร้างจินตนาการ และสนุกไปกับของเล่น ประกอบด้วย
ตู้ที่ 1 "ฝูงสัตว์มีชีวิตด้วยจินตนาการ" เพื่อฝึกการสร้างจินตนาการด้วยของเล่น ที่ใส่กลไกในสัตว์ประเภทต่างๆ เช่น สัตว์ล้อ สัตว์วิ่ง และสัตว์ชัก
ตู้ที่ 2 "ลูกข่างไม้หลากหลากชนิด" เป็นของเล่นที่โปรดปรานของเด็กผู้ชาย หมุนได้โดยอาศัยการปั่น เช่นลูกข่างโว้ ลูกข่างสตางค์ ลูกข่างสะบ้า
ตู้ที่ 3 "ทั้งหมุน ทั้งบิน" จัดแสดงของเล่นที่อาศัยการสังเกตมาประดิษฐ์ เช่น กำหมุน จานบิน โหวด
ตู้ที่ 4 "ตีลังกา ลีลาเยี่ยม" จัดแสดงของเล่นที่มีท่าทางการกระโดดตีลังกาไปมา เช่น อมรเทพ บาร์สูง
ตู้ที่ 5 "เกมส์เชาวน์ปัญญาฝึกไหวพริบ" จัดแสดงของเล่น ที่เล่นจนลืมเวลาเช้าเวลาเย็น เช่น พญาลืมแลง พญาลืมงาย
ตู้ที่ 6 "เรียงร้อย สร้อยโมบาย ได้สมาธิ" จัดแสดงของเล่นที่ฝึกหัดการร้อยเชือกจากไม้แกะสลักรูปสัตว์ต่างๆ
ตู้ที่ 7 "จำลองวิถีชีวิตในอดีต" จัดแสดงของเล่นที่เล่าเรื่องราววิถีชีวิต เช่น ครกมอง ควายกินหญ้า และคนเลื่อยไม้
นอกจากของเล่นที่นำมาจัดแสดง ปัจจุบันของเล่นพื้นบ้านจากกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ได้กลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุในชุมชน ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ยังมีความร่วมมือกับชุมชนป่าแดดและชุมชนบริเวณรอบๆ สร้างเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับเด็กๆ ทั้งหมด 6 แหล่งเรียนรู้ ดังนี้
1.พิพิธภัณฑ์เล่นได้ กลุ่มคนเฒ่าคนแก่ แหล่งเรียนรู้เพื่อการสืบสานและถ่ายทอดภูมิปัญญาการทำของเล่นพื้นบ้าน และเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับเด็ก
2.ศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์แมลงปีกแข็ง แหล่งเรียนรู้เพื่อการศึกษาวงจรชีวิตของด้วงกว่าง เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์แมลงต่อไป
3.ศูนย์ศึกษาป่าชุมชน แหล่งเรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมประเพณี การดูแลรักษาป่า การจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน
4.หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง แหล่งเรียนรู้เพื่อศึกษาวิถีแห่งความพอดีและการพึ่งพาตนเองดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
5.กลุ่มทอผ้า แหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตด้านการทอผ้า เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมใช้ผ้าพื้นเมือง
6.โบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ดอยเวียงดอยวง แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ อายุ 3,000 ปี
บริหารจัดการ
ประเภทพิพิธภัณฑ์
แผนที่
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
โทรศัพท์ : 0-5370-8070, 089-999-8537
วันและเวลาทำการ
ทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.(ส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์)
ในส่วนของชุมชนเวลาตามสะดวกหรือทำการนัดหมาย
ค่าเข้าชม
ไม่เก็บค่าเข้าชม
การเดินทาง
-เส้นทางนครสวรรค์-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย จากรังสิตมาตามถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 32 ที่อำเภอวังน้อย ผ่านจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก เลำปาง แล้วตรง พะเยา จนเข้าสู่เชียงราย รวมระยะทาง 830 กิโลเมตร
-เส้นทางนครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-เชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 เมื่อไปถึงจังหวัดนครสวรรค์ ให้แยกเข้าจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา จนถึงเชียงราย ระยะทางประมาณ 804 กิโลเมตร
เนื้อหาสำหรับประชาชนทั่วไป
เนื้อหาสำหรับเด็ก
รับบัตรเครดิต
รับจองล่วงหน้า
กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะทำจดหมายขออนุญาต/โทรศัพท์แจ้งการนัดหมายก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา 7 วัน
สามารถจัดกิจกรรมเฉพาะเฉพาะให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้
สิ่งอำนวยความสะดวก
มีลานจอดรถ