แกลเลอรี
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
ปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไปที่ดับสนิทแล้ว เป็นโบราณสถานเนื่องในอิทธิพลอารยธรรมเขมรโบราณที่มีความงดงาม และมีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ศาสนสถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ หนึ่งในสามเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู (ตรีมูรติ) ลัทธิไศวะนิกาย เขาพนมรุ้งและปราสาทบนยอดเขาจึงเปรียบเสมือนเขาไกรลาสอันเป็นที่ประทับของพระศิวะ และยังเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์กลางจักรวาล กลุ่มอาคารบนยอดเขามีการก่อสร้างหลายยุคสมัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 154 – 18
“พนมรุ้ง” มาจากภาษาเขมรว่า “วนํรุง” แปลว่า ภูเขาอันกว้างใหญ่ โดยคำนี่ปรากฏอยู่ในศิลาจารึกอักษรขอมพบที่ปราสาทพนมรุ้ง และยังปรากฏชื่อผู้สร้างปราสาทคือ “นเรนทราทิตย” เชื้อสายราชวงศ์มหิธรปุระผู้เกี่ยวข้องเป็นพระญาติของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 แห่งเมืองพระนคร ผู้สร้างปราสาทนครวัด
ภายในมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ อาทิ
- สะพานนาคราช มีความหมายเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของเทพเจ้า เพราะในความเชื่อเกี่ยวกับจักรวาลของฮินดู สะพานที่เชื่อมระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า คือ สายรุ้ง ในเอเชียตะวันออกและอินเดียมักจะเปรียบสายรุ้งกับงู(นาค) หลากสี ที่ชูหัวไปยังท้องฟ้าหรือกำลังดื่มน้ำจากทะเล ศูนย์กลางบนพื้นหินของสะพานจำหลักรูปดอกบัว ๘ กลีบ อยู่ในวงกลม
- ทางเดินขึ้นไปยังลานบนยอดเขาทำเป็นบันไดหินทราย สูง ๑๐ เมตร มี ๕ ชั้น จำนวน ๕๒ ขั้น มีชานพัก ๕ ชั้น บันไดและชานพักแต่ละชั้นลดหลั่นกันขึ้นไปตามลำดับความสูง ให้ความรู้สึกของยอดเขาที่สูงเสียดยอดขึ้นไปสู่สวรรค์
- ลานหน้าระเบียงคด เป็นลานโล่งกว้าง ตั้งอยู่บนฐานซึ่งเกิดจากการถมปรับระดับพื้นที่ภูเขาเพื่อประโยชน์ใช้สอย ลักษณะเป็นยกพื้นเตี้ยๆ รูปกากบาทก่อด้วยศิลาแลง ผังรูปกากบาทนี้ ทำให้เกิดช่องทางเดินและช่องสี่เหลี่ยมคล้ายสระเล็กๆ จำนวน ๔ ช่อง
- สะพานนาคราชชั้นที่ ๒ ศูนย์กลางบนพื้นหินของสะพานจำหลักรูปดอกบัว ๘ กลีบ อยู่ในวงกลม เช่นเดียวกับสะพานนาคชั้นที่ ๑ ถัดมาเป็นระเบียงคดก่อเป็นห้องยาว แต่ไม่สามารถเดินทะลุถึงกันได้เพราะทำเป็นผนังกั้นเป็นช่วงๆ ซุ้มประตูกลางของระเบียงคดด้านทิศตะวันออกมีมุขทั้งด้านในและด้านนอก ด้านข้างชักปีกออกไปต่อกับห้องของระเบียงคด จึงมีลักษณะเป็นห้องรูปกากบาท รูปโค้งลดชั้นประดับสันหลังคาด้วยบราลี
- ปราสาทประธาน เป็นสถาปัตยกรรมหลักที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน ส่วนทางด้านหน้า คือ ทิศตะวันออกทำเป็นอาคารมีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียกว่า “วิหาร” ซึ่งในตำแหน่งเดียวกันกับสถาปัตยกรรมต้นแบบของอินเดีย เป็นอาคารแผนผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเรียกว่า “มณฑป” โดยมีอันตราละหรือฉนวนเชื่อมกับปราสาทประธาน ส่วนต่างๆทั้งหมดของปราสาทประธานตั้งอยู่บนฐาน ๒ ชั้น ย่อเก็จรับกันกับอาคาร
- ปราสาทอิฐ ๒ หลัง มีเสาประดับกรอบประตูที่ทำด้วยหินทราย ซึ่งนักประวัติศาสตร์ศิลปะได้ศึกษาพบว่า น่าจะมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ และพบประติมากรรมหินทราย ๒ รูป นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าที่สุดที่เหลืออยู่
บริหารจัดการ
ประเภทพิพิธภัณฑ์
วัตถุจัดแสดงที่มีความสำคัญ / สิ่งที่น่าสนใจ
• งานเทศกาลที่สำคัญประจำปีของปราสาทหินเขาพนมรุ้ง
• ลวดลายแกะสลัก หินสลักรูปดอกบัวแปดกลีบ และทัพหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่มีชื่อเสียง
• ลายหินแกะสลักบริเวณเสาประตู รูปเทวดาประจำทิศ ฤาษี และเทพดาทางศาสนาฮินดู
• แท่นศิวลึงค์ และโคนันทิพาหนะของพระศิวะ ภายในตัวปราสาทหินพนมรุ้ง
แผนที่
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
โทรศัพท์ : 044-666 251
โทรสาร : 044-666 252
เว็บไซต์ : http://www.finearts.go.th/phanomrunghistoricalpark
อีเมล : phnomrungoffice@yahoo.co.th
วันและเวลาทำการ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม
1. ค่าเข้าชมโบราณสถาน
ชื่อโบราณสถาน |
อัตราค่าเข้าชมต่อคน (บาท) |
|||
สัญชาติไทย |
สัญชาติอื่น |
|||
บัตรปลีก |
บัตรรวม |
บัตรปลีก |
บัตรรวม |
|
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง |
20 |
30 |
100 |
150 |
โบราณสถานปราสาทเมืองต่ำ |
20 |
100 |
2. ค่านำยานพาหนะเข้าไปในเขตโบราณสถาน (กรณีเข้าประตู 3 ด้านหลังปราสาทพนมรุ้ง)
(1) รถจักรยาน 2 ล้อ คันละ 10 บาท
(2) รถจักรยานยนต์หรือรถจักรยาน 3 ล้อ คันละ 20 บาท
(3) รถจักรยานยนต์ 3 ล้อ คันละ 30 บาท
(4) รถยนต์ คันละ 50 บาท
3. บุคคลที่ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม
(1) ภิกษุ สามเณรในพระพุทธศาสนา หรือนักพรตและนักบวชในศาสนาอื่น
(2) นักเรียน นิสิต นักศึกษาในเครื่องแบบ หรือไม่ได้แต่งเครื่องแบบแต่แสดงบัตรประจำตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่สถาบันการศึกษาออกให้
(3) นักเรียน นิสิต และนักศึกษา รวมทั้งครูและอาจารย์ผู้ควบคุม ในกรณีที่สถานศึกษาหรือสถาบันการศึกษาขอเข้าชมเป็นหมู่คณะ
(4) คนพิการและผู้ด้อยโอกาส
(5) ผู้ซึ่งอธิบดีเชิญหรือต้อนรับ
(6) พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
(7) ทหารผ่านศึกที่แสดงบัตรที่ทางราชการออกให้
(8) ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไปและมีสัญชาติไทย เมื่อแสดงบัตรประจำตัวประชาชน
(9) สมาชิกของสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศและสมาชิกของสภาการพิพะภัณฑ์ระหว่างประเทศ ที่แสดงบัตรประจำตัวสมาชิก
(10) สมาชิกของสภาการโบราณสถาน(ประเทศไทย) ที่แสดงบัตรประจำตัวสมาชิก
(11) สมาชิกอาสาสมัครในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม ที่แสดงบัตรประจำตัวสมาชิก
การเดินทาง
- รถยนต์ จากกรุงเทพมหานคร เดินทางโดยเครื่องบินลงที่สนามบิน อ.สะตึก จ.บุรีรัมย์ และต่อรถยนต์มายังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง
- รถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี) ลงที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ และต่อรถยนต์มายังอุทยานประวัติสาสตร์พนมรุ้ง ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถโดยสารประจำทาง บขส. เส้นทางกรุงเทพฯ-พนมรุ้ง ระยะทางประมาณ 360 กิโลเมตร ลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเฉลิมพระเกียรติ แล้วต่อรถรับจ้างขึ้นสู่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เนื้อหาสำหรับประชาชนทั่วไป
เนื้อหาสำหรับเด็ก
รับบัตรเครดิต
รับจองล่วงหน้า
กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะและขอวิทยากร กรุณาทำหนังสือก่อนเข้าเยี่ยมชมล่วงหน้า
ข้อมูลสำหรับผู้พิการ
มีทางลาดสามารถนำผู้พิการและคนชราเข้าชมได้ โดยติดต่อที่ประตูทางเข้าที่ 3 ด้านหลังปราสาท
สิ่งอำนวยความสะดวก
มีลานจอดรถ