แกลเลอรี
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
ทันทีที่เลี้ยวจากถนนมิตรภาพเข้ามายังบ้านสัมฤทธิ์ ข้าวนาปรังเขียวขจีในฤดูแล้ง สลับกับบางแปลงที่เก็บเกี่ยวแล้ว มีกองฟางกองสูงขึ้นหลายกอง บางบ้านมีแปลงผักกำลังงอกงาม อีกทั้งได้เพลินตากับทิวของต้นจานที่ออกดอกสีแสดสะพรั่งเต็มต้น บางกลีบดอกกระจายร่วงลงมายังความสวยงามให้กับพื้นดิน
ผู้นำชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลสัมฤทธิ์ในวันนี้คือ บุคคลสำคัญของหมู่บ้าน 2 ท่านคือนายบุญ หนากลาง อดีตกำนันตำบลสัมฤทธิ์และนายเทอดไท บ่มทองหลาง อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสัมฤทธิ์หมู่ที่ 1 ก่อนการเดินมายังพิพิธภัณฑ์ กำนันบุญได้แวะกราบไหว้สักการะศาลย่าบุญเหลือที่ตั้งอยู่เยื้องไปทางด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ ใกล้กันมีรูปปั้นจำลองเหตุการณ์วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ของเหล่าวีรชน กำนันบุญได้เล่าให้ฟังถึงการบุกเบิกสถานที่แห่งนี้ เริ่มจากการตั้งเป็นศาลเล็กๆ เป็นการรำลึกถึงและสดุดีวีรกรรมของย่าบุญเหลือหรือนางสาวบุญเหลือที่ได้ร่วมสร้างวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์มาพร้อมกับท่านท้าวสุรนารี ต่อมาในปีพ.ศ.2531 ชมรมคนรักคุณย่าได้รวบรวมเงินมาสร้างศาลใหม่ตรงที่เดิม ภายในศาลมีรูปปั้นย่าบุญเหลือ วีรกรรมของท่านคือการพลีชีพด้วยการจุดไฟทำลายเกวียนที่บรรทุกดินระเบิด ในการต่อสู้กับกองทัพเวียงจันทน์ จนกระทั่งตนเองถูกระเบิดตาย
ความผูกพันของย่าบุญเหลือกับชาวบ้านตำบลสัมฤทธิ์มีความแนบแน่นด้วยศรัทธา จากเรื่องราวทางไสยศาสตร์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งเรียกว่าเล่าขานกันไม่จบง่ายๆ
ช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม ของทุกปี ที่นี่จะมีการจัดงานสดุดีวีรกรรมท้าวสุรนารี นางสาวบุญเหลือและวีรชน ในงานจะมีการแสดงแสงสีเสียงเล่าถึงวีรกรรมคุณหญิงโมและนางสาวบุญเหลือที่ได้ช่วยบ้านเมืองพ้นภัย การแสดงหลักอย่างอื่นจะมีการเล่นเพลงโคราช ลำตัด ลิเก ดนตรี และจะมีการทอดผ้าป่าเพื่อนำเงินที่ได้มาจากการจัดงานมาใช้ในการดูแลในส่วนของพิพิธภัณฑ์และส่วนอื่นๆ โดยรอบ
ส่วนของตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ ผู้มีส่วนช่วยผลักดันในเรื่องงบประมาณคือนายกร ทัพพะรังสี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในยุคนั้น สิ่งของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ได้มาจากชาวบ้านช่วยกันบริจาค ในการจัดแต่งทางกรมศิลปากรได้เข้ามาช่วย สิ่งของเป็นพวกเครื่องมือพื้นบ้านจำพวกหม้อไหดินเผา บางชิ้นทำมาจากสำริด อุปกรณ์ทำนา ถังใส่น้ำที่เรียกว่ากระบุ๋ม อุปกรณ์จับปลา เครื่องมือทอผ้า อาวุธสมัยก่อน หีบเหล็ก และยังมีสิ่งของมีค่าจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้นำมาจัดแสดง เป็นพวกเครื่องทอง เงินก้อน ของมีค่าเหล่านี้คนเฒ่าคนแก่ได้บริจาคมาก หลังจากมีการจดบันทึกไว้ก็มีการนำไปเก็บไว้ที่ตู้เซฟ
ในการพาเดินชมสิ่งของจัดแสดง กำนันบุญได้รำลึกถึงความหลังว่า อุปกรณ์ทำนาอย่างที่มองเห็นเป็นพัดขนาดใหญ่สองอันวางอยู่ข้างกัน กำนันเคยใช้มาก่อนในการพัดข้าว กำนันจึงสาธิตวิธีใช้ให้ดูอย่างทะมัดทะแมงด้วยการจับด้ามพัดไว้ทั้งสองมือแล้วออกแรงโบกสลับกัน ส่วนของมีค่าประเภทลูกปัดหรือเครื่องประดับ เมื่อก่อนมีชาวบ้านพบอยู่ในดิน ตอนนี้จะไม่ค่อยมีแล้ว เนื่องจากพวกซื้อของเก่ามากว้านซื้อไปหมด ผู้ช่วยฯเสริมว่าบริเวณนี้ไม่ต่างจากแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาทที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนห่างจากที่นี่ไปประมาณ 5 กิโลเมตร แถวนี้ขุดลงไปก็เจอโครงกระดูกและวัตถุโบราณเช่นเดียวกัน บางทีไม่ต้องขุดแค่น้ำฝนไหลผ่านเป็นทางน้ำก็มีกระโหลกและโครงกระดูกโผล่ขึ้นมาให้เห็น เคยมีคนพบโครงกระดูกสองร่าง ซึ่งชาวบ้านได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนา
กำนันบุญออกความเห็นต่อแผนงานในอนาคตของพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันมีความพร้อมในเรื่องสถานที่ ถ้ามีงบประมาณจะสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ เนื่องมาจากยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ด้านบุคลากรคงต้องให้อีกหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยทั้งกรมศิลปากร อบต. ถ้าได้พัฒนาให้ดีกว่านี้จะดีกับการท่องเที่ยว เพราะหมู่บ้านนี้ใกล้กับแหล่งโนราณคดีบ้านปราสาท ตามเส้นทางนี้ประมาณสิบกว่ากิโลเป็นทางลัดผ่านหลายหมู่บ้านไปบรรจบกับเส้นทางหลักไปยังปราสาทหินพิมาย ไทรงาม แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันดี
ข้อมูลจาก
http://www.sac.or.th/databases/museumdatabase/review_inside.php?id=916
บริหารจัดการ
ประเภทพิพิธภัณฑ์
วัตถุจัดแสดงที่มีความสำคัญ / สิ่งที่น่าสนใจ
-
แผนที่
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
โทรศัพท์ : 081-070-9592 ติดต่อกำนันบุญ
วันและเวลาทำการ
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
การเดินทาง
จากตัวเมืองนครราชสีมาไปตามถนนมิตรภาพมุ่งหน้าขอนแก่นมาประมาณ 45 กิโลเมตร สังเกตขวามือมีป้ายสีน้ำเงินขนาดใหญ่ว่า อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ให้เลี้ยวเข้ามาในซอยนั้น พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับอนุสรณ์สถาน
เนื้อหาสำหรับประชาชนทั่วไป
เนื้อหาสำหรับเด็ก
รับบัตรเครดิต
รับจองล่วงหน้า
-
ข้อมูลสำหรับผู้พิการ
-
สิ่งอำนวยความสะดวก
มีที่จอดรถ