กำลังโหลดข้อมูล

คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

มิวเซียมไทยแลนด์

  1. หน้าแรก
  2.    >   มิวเซียมไทยแลนด์
  3.    >   พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป

16 มีนาคม 2566

ชื่นชอบ 635

85,099 ผู้เข้าชม

แกลเลอรี

ข้อมูลพิพิธภัณฑ์

กรมศิลปากร  ได้ริเริ่มโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถาน ประเภทศิลปะสมัยใหม่ขึ้น ในวาระครบรอบ  100 ปี การพิพิธภัณฑ์ไทย และได้รับมอบอาคารโรงกษาปณ์  จากกรมธนารักษ์ ในปี พ.ศ.2517 เพื่่อจัดตั้งเป็น "หอศิลปแห่งชาติ"  มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปกรรมประเภททัศนศิลป์ ของศิลปินผู้ที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตลอดจนเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศิลปกรรมทั้งแบบไทยประเพณีและร่วมสมัย

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดหอศิลปแห่งชาติ ในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2520 หลังจากนั้น หอศิลปแห่งชาติ ได้ปิดปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อให้ตรงตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ว่า  "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป" และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2521 ต่อมาใน พ.ศ.2526 กรมธนารักษ์ ได้มอบอาคารและที่ดินเพิ่มเติมให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ดำเนินการปรับปรุงขยายพื้นที่อาคารจัดแสดง เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการแก่ศิลปินตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ผู้เข้าชมได้อย่างครบถ้วน ตามหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะระดับชาติ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอาคารผลิตเหรียญกษาปณ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในช่วงนั้นประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและทำการค้ากับต่างชาติ จึงมีความจำเป็นในการใช้เงินตราในการแลกเปลี่ยน และเนื่องด้วยโรงกษาปณ์แห่งเดิมในพระบรมหารราชวัง ซึ่งผลิตโดยใช้เครื่องจักรไอน้ำคับแคบและเริ่มทรุดโทรม  รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงกษาปณ์แห่งใหม่ขึ้น ณ บริเวณอันเป็นที่ตั้งของวังเจ้านาย 6 พระองค์ เรียกว่า "วังสะพานเสี้ยว" พื้นที่บริเวณริมคลองคูเมืองเดิม ใกล้วัดชนะสงคราม โดยโปรดให้รื้อถอนพระตำหนักของเจ้านายฝ่ายวังหน้าที่ตั้งอยู่บริเวณนี้  พระราชทานเงินค่ารื้อถอน และสร้างวังใหม่ให้แก่เจ้านายทุกพระองค์

 

อาคารโรงกษาปณ์สิทธิการแห่งที่ 3 (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ในปัจจุบัน)  ได้รับการออกแบบก่อสร้างโดย นายคาร์โล อัลเลกรี (Carlo Allegri) สถาปนิกและวิศวกรประจำราชสำนักสยาม โดยจำลองรูปแบบของสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค (Neo-classicism) แนวทางนีโอปัลลาเดียน (Neo-palladianism) มาใช้เป็นหลักในการออกแบบ เนื่องจากลักษณะทางสุนทรียภาพของสถาปัตยกรรมแบบนี้ มักให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศของความเคร่งขรึม สง่างาม  จึงเหมะสมสำหรับใช้กับอาคารราชการประเภทที่ทำการกระทรวง ศาล โรงเรียน โรงงาน และสถานทูต เป็นต้น

 

สถาปนิกออกแบบอาคารเชื่อมโยงต่อกันเป็นกลุ่มอาคารรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ล้อมรอบลานโล่ง โดยได้แรงบันดาลใจการวางผังจากแบบแปลนโรงงานเครื่องจักรเมืองเบอร์มิ่งแฮม  ประเทศอังกฤษ  จุดเด่นอยู่ที่มุขกลางด้านหน้าของอาคารที่มีหลังคาทรงจั่วแบบวิหารกรีก ผนังหน้าจั่วประดับตราแผ่นรูปดินปูนปั้น ล้อมรอบด้วยครึ่งวงกลมประกอบลายพันธ์พฤกษา ผนังอาคารชั้นบน แบ่งเป็น 3  ส่วน แต่ละส่วนเจาะช่องหน้าต่างเป็นโครงสร้างโค้งครึ่งวงกลม(semi-circular arch) แต่ไม่ประดับซุ้ม  ผนังฉาบปูนเดินร่องลึกเป็นรูปช่องสี่เหลี่ยมใหญ่เรียงกันเลียนแบบลายหินก่อ(Rustication) มุมอาคารมีการเน้นลายหินอ่อนให้นูนเป็นเสาอิงที่ไม่มีหัวเสา

 

จากจุดกำเนิดที่เป็นโรงกษาปณ์สิทธิการ จนมาเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ในปัจจุบันอาคารอายุกว่า 113 ปี ได้รับการปรับปรุง ปรับเปลี่ยน ซ่อมแซม ในส่วนขององค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทและหน้าที่ใช้สอยที่เปลี่ยนไป  แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีนั้น  คือ  รูปแบบสถาปัตยกรรมที่สง่างามสะท้อนภูมิปัญญาของสถาปนิกและวิศวกร ที่ได้กลั่นกรองสร้างสรรค์ จัดระเบียบความงามอย่างมีแห่งผล (Rational organization) ตามหลักของนีโอปัลลาเดียน จึงกลายเป็นหนึ่งในเพชรน้ำเอกของสถาปัตยกรรมสำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์จนทุกวันนี้

 

การจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

 

นิทรรศการถาวร จัดแสดงผลงานศิลปะทั้งแบบประเพณีและผลงานร่วมสมัย นำเสนอให้เห็นวิวัฒนาการของผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างผลงานที่สำคัญและทรงคุณค่าต่อวงการศิลปะในประเทศไทย อาทิ ภาพวาดพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จิตรกรรมเนื่องในพุทธศานา(ภาพพระบฏ) ภาพพงศาวดาร ภาพวรรณคดี ตลอดจนผลงานของศิลปินแห่งชาติและศิลปินที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย แบ่งเป็น

 

  • ห้องเฉลิมพระเกียรติ แสดงจิตรกรรมภาพฝีพระหัตถ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 
  • ห้องจิตกรรมไทยประเพณี จัดแสดงจิตรกรรมไทยประเพณี  อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและได้รับสืบทอดมาตั้งแต่อดีต โดยมีเนื้อหาหลักเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา ที่สอดแทรกด้วยเรื่องราวในวรรณคดีและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงภาพจิตรกรรมของขรัวอินโข่ง จิตรกร ผู้เรืองนามในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ นายช่างเอกแห่งกรุงสยาม ผลงานของบรมครูทั้ง 2 ท่านเน้นการนำเรื่องราวอุดมคติของไทยผสมผสานกับเทคนิคแบบตะวันตก ซึ่งเป็นเสมือนต้นแบบและแนวทางสำคัญสำหรับช่างไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน
  • ห้องจิตรกรรมแบบตะวันตก จัดแสดงภาพจิตรกรรมไทยที่ผสมผสานกับรูปแบบจิตรกรรมตะวันตก ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเปิดรับวิทยาการจากประเทศตะวันตกมาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า หากแต่ยังคงรักษาความเป็นไทยเอาไว้ ในช่วงเวลานี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปถึงสองครั้งในปี พ.ศ.2440 และ พ.ศ.2449 เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีและศึกษาความเจริญทางศิลปวิทยาการของประเทศเหล่านั้นด้วย
  • ห้องประติมากรรม จัดแสดงผลงานประติมากรรมในยุคของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี พ.ศ.2475 ส่งผลให้รัฐบาลมีบทบาทในการสนับสนุนและอุปถัมภ์ศิลปกรรมแขนงต่างๆ แทนราชสำนัก และเป็นช่วงที่ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ศิลปินชาวอิตาเลียน ผู้ก่อตั้งโรงเรียนประณีตศิลปกรรม(มหาวิทยาลัยศิลปากร) และเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดความเคลื่อนไหวในทางสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับวงการศิลปะไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ จนได้รับการยกย่องว่า เป็นบิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทย

 

 

นิทรรศการหมุนเวียน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป จัดนิทรรศการหมุนเวีนยตลอดปี เดือนละ 2-4 นิทรรศการ ผลงานที่นำมาจัดแสดงเป็นผลงานทัศนศิลป์ทุกประเภท ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการศิลปะ เป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับชาติ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

บริหารจัดการ

กรมศิลปากร

ประเภทพิพิธภัณฑ์

ศิลปะ

พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง

แผนที่

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

เลขที่ 4 ถนนเจ้าฟ้า แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทรศัพท์ : ฝ่ายธุรการ เบอร์ 02 282 8525 และ 02 282 0637 / ฝ่ายวิชาการ เบอร์ 02 282 2639
โทรสาร : 02-282-8525
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TheNationalGalleryBangkok
อีเมล : national.gallery.th@gmail.com

วันและเวลาทำการ

เปิดให้บริการวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.

(หยุดวันจันทร์ - วันอังคาร, วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดตามประกาศของรัฐบาล)

ค่าเข้าชม

  • คนไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท
  • นักเรียน นักศึกษา พระภิกษุ สามเณร นักบวชในศาสนาอื่น และผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) เข้าชมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถแท็กซี่

  • ทางที่ 1 จากบางลำภูเข้าสู่ ถนนจักรพงษ์ ผ่านหน้าวัดชนะสงครามชิดขวาเข้าถนนเจ้าฟ้า
  • ทางที่ 2 ข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ชิดซ้ายลงสะพานเข้าถนนเจ้าฟ้า
  • ทางที่ 3 จากสนามหลวง ผ่านหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และโรงละครแห่งชาติเข้าถนนพระอาทิตย์ ถนนพระสุเมรุ ถึงสี่แยกเลี้ยวขวา เข้าสู่ถนนจักรพงษ์ ผ่านหน้าวัดชนะสงคราม ชิดขวาเข้าถนนเจ้าฟ้า

 

รถโดยสารประจำทางสาย 3, 6, 9, 15, 19, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 123, 507

เรือด่วนเจ้าพระยา: ท่าพระอาทิตย์ เดินย้อนกลับมาทางสะพานปิ่นเกล้า

เนื้อหาสำหรับประชาชนทั่วไป

เหมาะสม
ไม่เหมาะสม

เนื้อหาสำหรับเด็ก

เหมาะสม
ไม่เหมาะสม

รับบัตรเครดิต

รับ
ไม่รับ

รับจองล่วงหน้า

กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะและต้องการเจ้าหน้าที่นำชมจะต้องทำหนังสือก่อนขอเข้าเยี่ยมชม

ข้อมูลสำหรับผู้พิการ

มีห้องน้ำและทางลาดสำหรับผู้พิการ

สิ่งอำนวยความสะดวก

มีพื้นที่สำหรับจอดรถ

50

แบ่งปัน

กิจกรรม

05 ก.ย. 2567

27 ก.ย. 2567

05 กันยายน 2567
สุนทรียะความงามจากผลงานศิลปินแห่งชาติและนานาชาติ สู่การออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ผ่านนิทรรศการ “ภาพบันดาล Art Decoded”   สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมกับสมาคมเพื่อการพัฒนาศิลปะและหัตถศิลป์ไทย(TACDA) จัดนิทรรศการ “ภาพบันดาล Art Decoded” แสดงการถ่ายทอดสุนทรียะจากผลงาน ของศิลปินแห่งชาติและนานาชาติสู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของที่ระลึก    เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยการจัดนิทรรศการระดับนานาชาติและศึกษาต้นแบบสินค้า ที่ระลึกภายในพิพิธภัณฑ์ เพื่อต่อยอดสู่การจัดนิทรรศการและการจัดทำสินค้าเชิงพาณิชย์ จากฐานทุนวัฒนธรรมของไทย   จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 4 - 27 กันยายน 2567 เวลา 09:00 – 16:00 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป (หอศิลป์เจ้าฟ้า) เปิดให้เข้าชมวันพุธ - อาทิตย์ (ปิดจันทร์-อังคาร)    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-427-4998  หรือ Facebook page สมาคมเพื่อการพัฒนาศิลปะและหัตถศิลป์ไทย (TACDA)

08 พ.ค. 2567

30 มิ.ย. 2567

03 พฤษภาคม 2567
นิทรรศการ From orbit to Conversation 90 ปี อินสนธิ์ วงค์สาม และ ทวี รัชนีกร เป็นการนำเอาผลงานของทั้งคู่มาเกี่ยวร้อยเชื่อมโยงกัน เปรียบเสมือนบทสนทนาระหว่างเพื่อนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียน  ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้อยู่ในจักรวาล ท่ามกลางวงโคจรของกลุ่มสี แสง ธาตุ และฝุ่นผง ที่ประกอบร่างเป็นดาวดวงใหญ่เคลื่อนลอยอย่างเป็นระบบในจักรวาล  ผ่านผลงานประเภทภาพพิมพ์แกะไม้ ภาพปะติดด้วยสมุดข่อย ประติมากรรมไม้ และภาพจิตรกรรมที่บรรจุสีสัน เปรียบเสมือนแสงดาวระยิบระยับท่ามกลางจักรวาล ที่ทั้งสองศิลปินสร้างขึ้น   นิทรรศการเชิดชูเกียรติศิลปินอาวุโส พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป From orbit to Conversation 90 ปี อินสนธิ์ วงค์สาม และ ทวี รัชนีกร จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม  - 30 มิถุนายน 2567 ในวันพุธ - อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ – อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม : ชาวไทย 30 บาท I ชาวต่างชาติ 200 บาท

07 มี.ค. 2567

22 มี.ค. 2567

07 มีนาคม 2567
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดรับสมัครอบรมศิลปะภาคฤดูร้อน ประจำปี 2567  ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ – 22 มีนาคม 2567    จัดอบรมศิลปะในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ให้แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนผู้สนใจ ใน 4 ทักษะ ได้แก่ การวาดการ์ตูน การสร้างงานประติมากรรม การวาดสีน้ำ และการวาดเส้น อบรมระหว่างวันที่ 17 – 28 เมษายน 2567 (วันพุธ – วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ – วันอังคาร)   ระดับชั้น ป.1 – ป.3 ทักษะการวาดการ์ตูน(เช้า) โดย ครูจิว ดินหิน รักพงษ์อโศก *เต็ม* ศิลปะและการวาดการ์ตูนเชิงสร้างสรรค์(บ่าย) โดย ครูกอล์ฟ สุทธาสินีย์ สุวุฒโฑ *เหลือ 5 ที่*   ระดับชั้น ป.4 – ป.6 Sculpting for Beginners การสร้างงานประติมากรรมจากรูปทรงเรขาคณิตพื้นฐาน(เช้า) โดย ครูชิน ภาสกร ดงอำมาตย์ *เต็ม* Art & Creative Cartoon ศิลปะและการวาดการ์ตูนเชิงสร้างสรรค์ (เช้า) โดย ครูลี่ ศันสนีย์ รุ่งเรืองสาคร *เหลือ 2 ที่* Watercolor for Kids ทักษะการวาดสีน้ำ (บ่าย) โดย ครูเล็ก ณรงค์เดช ศุขสายชล *เหลือ 6 ที่* Art & Creative Cartoon ศิลปะและการวาดการ์ตูนเชิงสร้างสรรค์ (บ่าย) โดย ครูเบศร์ ภูเบศร์ สินอำพล *เหลือ 8 ที่*   ระดับชั้น ม.1 – บุคคลทั่วไป Drawing ทักษะการวาดลายเส้น(เช้า) โดย ครูบี อัจจิมา เจริญจิตร *เหลือ 4 ที่* Watercolor ทักษะการวาดสีน้ำ(บ่าย) โดย ครูเก๋ พัชรินทร์ อนวัชประยูร *เหลือ 13 ที่*   การรับสมัคร สมัครและชำระค่าลงทะเบียนได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ** ไม่รับโอนเงิน และไม่รับสมัครหรือรับจองทางออนไลน์ใดๆ ทั้งสิ้น **   เอกสารที่ใช้ในการสมัคร 1. รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 1 ใบ 2. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาบัตรประชาชนของผู้เข้ารับการอบรม 3. ค่าลงทะเบียนคนละ 1,900 บาท ต่อคอร์ส (รวมอุปกรณ์ที่ใช้ในการอบรมแล้ว)   *** ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ปกครองหรือผู้ที่สนใจสมัครเรียน ตรวจสอบตารางเรียนก่อนทำการสมัคร หากยืนยันการสมัครแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคอร์สได้ และขอสงวนสิทธิ์การคืนเงินทุกกรณี ***   สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายวิชาการ โทร. 02 282 8525 Inbox Facebook The National Gallery of Thailand 

01 ก.พ. 2567

28 ก.พ. 2567

01 กุมภาพันธ์ 2567
นิทรรศการ The Wonder of Flowers Malee 67   โดย กลุ่มศิลปินมาลี จปภ. ได้รวบรวมผลงานประเภทจิตรกรรมจำนวน 70 ชิ้น  แสดงผลงานชุด “มาลี” ซึ่งมีความหมายถึงดอกไม้ ความอ่อนไหวอ่อนโยน ความสดชื่น ประโลมจิตใจและสื่อถึงความรัก เข้ากับบรรยากาศเดือนกุมภาพันธ์   วันที่ 2 - 28 กุมภาพันธ์ 2567 ณ อาคารนิทรรศการ 6 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ตั้งเเต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ในวันพุธ - อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท นักเรียน นักศึกษา ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี

26 ม.ค. 2567

18 ก.พ. 2567

26 มกราคม 2567
ร่วมสัมผัสจิตวิญญาณ “เสี่ยอี้”  ในนิทรรศการ Chinese Xieyi : Art from the National Art Museum of China   นิทรรศการความร่วมมือระหว่าง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรมศิลปากร กับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติจีน(The National Art Museum of China) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน  นำผลงานศิลปะร่วมสมัย จากศิลปินชาวจีนที่มีชื่อเสียงทั้งหมด 42 ท่าน มาจัดแสดง หัวข้อ “เสี่ยอี้” ซึ่งแสดงออกถึงการได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมแบบจีนโบราณ  นิทรรศการจัดแสดงภาพทิวทัศน์อันงดงาม จิตวิญญาณของมนุษย์ หลักแห่งความสมดุล ปรัชญา และผลงานศิลปะที่ถ่ายทอดเรื่องราวของบทกวีจีน    จัดแสดง ณ อาคารนิทรรศการถาวร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2566 - 18 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 – 16.00 น.  (ปิดวันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม:  คนไทย 30 บาท / ชาวต่างชาติ 200 บาท นักเรียน นักศึกษา ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี   นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมประกอบนิทรรศการ ดังนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 - 16.00 น.  บรรยายพิเศษ หัวข้อ “ชุนเหลียน” คำอวยพรตรุษจีน จากปลายพู่กัน โดยวิทยากร อ.นิธิวุฒิ ศรีบุญชัยชูสกุล  ศิลปินลายสือศิลป์พู่กันจีน ศิลปินยอดเยี่ยม 1 ใน 30 ของโลก  จากหนังสือพิมพ์ People’s Daily  (จำกัดจำนวน 40 ท่าน) ลงทะเบียนเวลา 13.00 - 13.30 น. ณ อาคารนิทรรศการถาวร  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป   4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 - 15.30 น. กิจกรรม Workshop “วาดภาพพู่กันจีนเสี่ยอี้” โดยวิทยากร ครูเบญ เบญจวรรณ เงินบริสุทธิ์ ศิลปินวาดภาพพู่กันจีน  (จำกัดจำนวน 20 ท่าน) ลงทะเบียนเวลา 13.00 - 13.30 น. ณ อาคารนิทรรศการถาวร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป   สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี  ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ทาง https://forms.gle/TPErFqpz3iET9KeK9 ติดต่อสอบถามได้ทาง inbox: https://www.facebook.com/TheNationalGalleryThailand/ หรือโทร. 091 730 2737
pav

/

next

พิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง