แกลเลอรี
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
อดีตกาลของเมืองเสมา เป็นชุมชนโบราณสมัยทวารวดี มีร่องรอยของความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา คือ “ธรรมจักรศิลา” ซึ่งเป็นหินทรายแกะสลักในรูปกงล้อ ตอนล่างมีลายสลักรูปหัวสิงห์ สถิตอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ขององค์พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ภายในวัดแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านเรียกขานพระนอนองค์นี้ว่าองค์พ่อใหญ่ และมีความศรัทธาและเลื่อมใสเป็นอันมาก เวลาที่จะไปสมัครงานหรือทำกิจการงานอะไร ชาวบ้านมักจะมาบนบานขอพรจากท่าน การบนบานมีการถวายหัวหมู ไก่ ไข่ บางคนบนเพลงโคราชมาแสดง ปัจจุบันมีการสร้างศาลาคลุมองค์พระและมีทางเดินไม้ล้อมรอบองค์พระ โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ให้การสนับสนุนและดูแลรักษา
วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เห็นได้จากมีรถตู้เข้ามาจอด พร้อมไกด์ทัวร์ชาวต่างประเทศ พาเดินชมองค์พระพุทธไสยาสน์ประกอบคำบรรยาย ตรงจุดที่ต้อนรับผู้มาเยือนพร้อมดอกไม้ธูปเทียนสำหรับกราบไหว้บูชา
พระอธิการธีระพล ชินวโร เจ้าอาวาสบอกว่าธรรมจักรศิลาที่เห็นจัดแสดงในอาคารพิพิธภัณฑ์ ของจริงคืออันที่อยู่ในตู้กระจก ส่วนที่อยู่ด้านหน้าข้างนอกตู้คืออันจำลอง มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเป็นคนจัดสร้างจำลองโดยการถอดแม่พิมพ์จากของเดิม โดยปกติธรรมจักรศิลาจะตั้งอยู่หน้าพระพักตร์ขององค์พระพุทธไสยาสน์ วัตถุโบราณชิ้นอื่นที่จัดแสดงในอาคารนี้นอกจากธรรมจักรศิลา เป็นพวกเชิงชาย ศิวลึงค์ พระพุทธรูปสำริดอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้จัดแสดงที่นี่ กรมศิลปากรได้นำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เหตุผลหนึ่งคือเพื่อความปลอดภัยจากการสูญหาย
คำว่าเมืองเสมามีคำอธิบายไว้ว่าเป็นชุมชนโบราณแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ซึ่งก็คือบริเวณนี้ เมืองเสมามีผังเมืองเป็นรูปวงรีล้อมรอบด้วยคูน้ำและคันดิน 1 ชั้น ประกอบด้วยพื้นที่ 2 บริเวณ เรียกว่าเมืองชั้นนอกและเมืองชั้นใน ภายในเมืองชั้นในมีโบราณสถานจำนวน 6 แห่ง ส่วนเมืองชั้นนอกมีโบราณสถานจำนวน 3 แห่ง และบริเวณกลางเมืองชั้นนอกยังปรากฏแนวคูน้ำมีแผนผังรูปสี่เหลี่ยม
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย(สมัยเหล็ก) มีอายุราว 2,000 ปีมาแล้ว พบหลักฐานการอยู่อาศัยและประเพณีการฝังศพมนุษย์ร่วมกับเครื่องมือเหล็ก เครื่องประดับและภาชนะดินเผาแบบพิมายดำซึ่งนิยมผลิตในลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน
ต่อมาในสมัยทวารวดี มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-16 อิทธิพลวัฒนธรรมทวารวดีได้แพร่มาจากภาคกลางของประเทศไทย คติความเชื่อของพระพุทธศาสนาทำให้เกิดการก่อสร้างสิ่งต่างๆ เช่น เจดีย์ พระพุทธรูป ใบเสมา เป็นต้น สำหรับองค์พระนอนคาดว่าสร้างขึ้นในสมัยนี้ และการที่ค้นพบศิวลึงค์ที่เป็นความเชื่อของฮินดู เกิดมาจากยุคต่อมาคือพุทธศตวรรษที่ 15-18 ได้รับอิทธิพลขอม ทำให้พบสิ่งก่อสร้างเป็นศาสนสถานตามแบบศิลปะเขมร
ในส่วนขององค์พระ พระอธิการฯ บอกว่าสิ่งที่ปู่ย่าตายายเห็นจะแตกต่างกับตอนนี้ เมื่อก่อนจะมีการปรักหักพัง ทางกรมศิลปากรได้มาบูรณะใหม่จึงดูค่อนข้างสมบูรณ์อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ในส่วนใกล้องค์พระที่เป็นแท่งหิน คือใบเสมา ซึ่งอยู่ตรงจุดเดิมไม่ได้ย้ายไปไหน พระอธิการฯได้ชี้ให้ดูคันดินโดยรอบ ซึ่งคือตำแหน่งที่มีการขุดลงมา สังเกตได้ว่าบริเวณพระนอนมีลักษณะเป็นแอ่ง ด้วยสภาพเช่นนี้จำเป็นต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ โดยข้างใต้พื้นไม้นี้มีปั๊มลมไว้สำหรับไล่ความชื้นเวลาฝนตก เพราะความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดการผุกร่อนของหิน ท่านตั้งข้อสังเกตว่าใบเสมาหินทรายส่วนที่อยู่ด้านนอกตัวอาคารดูจะผุกร่อนน้อยกว่าเพราะได้รับแสงแดด ในช่วงฤดูน้ำหลากเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ จะต้องสูบน้ำออกถ้ามีน้ำไหลเข้ามา ทางญาติโยมในหมู่บ้านต่างมีความเป็นห่วง ชาวบ้านจะมาช่วยกันเอากระสอบทรายมากั้น ทางวัดก็ดูแลกันอย่างละเอียด ถ้าพบว่ามีตรงไหนชำรุดก็จะแจ้งไปทางกรมศิลปากรให้ส่งช่างเข้ามาดูแล
การจัดงานบุญของวัดนี้มีงานใหญ่ช่วงวันสงกรานต์ จัดกันทุกปี ลูกหลานคนที่นี่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนพอวันที่ 13-14 เมษายน จะต้องกลับมา การละเล่นมีลิเก มีการปิดทององค์พระ ท่านได้เล่าให้ฟังถึงบรรยากาศสงกรานต์ในอดีต เมื่อก่อนมีรำโทน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ทุกวันนี้จะมีแต่สาดน้ำกันแล้วไปเล่นที่อื่น เมื่อก่อนชาวบ้านจะเล่นสงกรานต์กันเป็นอาทิตย์ ตอนเย็นมีรำวงกันไปจนถึงสี่ห้าทุ่ม สมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เขาจะจุดตะเกียงเจ้าพายุ หรือไม่ก็ก่อกองไฟเล่นกัน เดี๋ยวนี้จะไม่มีแบบนั้นแล้ว
ชุมชนเสมาเดิมนั้นประกอบอาชีพการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ พอเสร็จหน้านา จะหว่านถั่วเขียว บางคนปลูกผัก ทอเสื่อ ปัจจุบันสภาพแวดล้อมในชุมชนเปลี่ยนแปลงมาก คนหนุ่มสาวมีงานทำมากขึ้น มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ใกล้หมู่บ้านหลายแห่ง ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวมาวัดกันน้อยลง จะมีให้เห็นในกรณีที่เป็นวันพระและตรงกับวันหยุดที่เป็นวันอาทิตย์เท่านั้น
ที่มา : http://www.sac.or.th/databases/museumdatabase/review_inside.php?id=915
บริหารจัดการ
ประเภทพิพิธภัณฑ์
วัตถุจัดแสดงที่มีความสำคัญ / สิ่งที่น่าสนใจ
-
แผนที่
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
โทรศัพท์ : 089-946-0149 (เจ้าอาวาส)
วันและเวลาทำการ
เปิดทุกวัน 07.00 น. – 18.00 น.
ค่าเข้าชม
: ไม่เสียค่าเข้าชม
การเดินทาง
จากถนนมิตรภาพเลี้ยวซ้ายเข้าสู่อำเภอสูงเนิน ให้ขับตรงไปเรื่อย ๆ ตามทาง จนกระทั่งข้ามทางรถไฟแล้วให้เลี้ยวซ้าย ถึงศาลเจ้าแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปถึงสุดทางสามแยกให้เลี้ยวซ้าย เจอสี่แยกแล้วให้เลี้ยวขวา จากนี้ให้ตรงไปตามเส้นทางนี้เรื่อย ๆ ประมาณ 2 กิโลเมตร (ผ่านวัดหินตั้ง ผ่านโรงเรียนบ้านทะเล) จะพบซุ้มประตูสีน้ำเงิน “พระนอน วัดธรรมจักรเสมาราม” ตรงเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรจะถึงที่หมาย
เนื้อหาสำหรับประชาชนทั่วไป
เนื้อหาสำหรับเด็ก
รับบัตรเครดิต
รับจองล่วงหน้า
-
ข้อมูลสำหรับผู้พิการ
-
สิ่งอำนวยความสะดวก
มีที่จอดรถ